เชาว์ปัญญาความคิดสร้างสรรค์
ความหมายของเชาว์ปัญญา
เชาว์ปัญญา หมายถึง ความสามารถที่จะใช้ความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ในด้านต่างๆ เช่น การเรียนรู้ การแก้ปัญหา และการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีเชาว์ปัญญา มีหลายทฤษฎี เช่น ทฤษฎีองค์ประกอบเดี่ยวเชื่อว่าเชาว์ปัญญา คือความสามรถในการคิดแบบนามธรรม ทฤษฎีสององค์ประกอบยังแบ่งความสามารถของเชาว์ปัญญาออกเป็น 2 องค์ประกอบ คือองค์ประกอบทั่วไป และองค์ประกอบเฉพาะ ทฤษฎีหลายองค์ประกอบของ เธอร์สโตน เสนอความสามารถสมองออกเป็น 7 ด้าน ทุกทฤษฎีต่างก็มีประโยชน์และเป็นพื้นฐานในการสร้างเครื่องมือวัดเชาว์ปัญญา
การวัดเชาว์ปัญญา
ระดับ I.Q. (เชาว์ปัญญา) | ความหมาย | ความสามารถทางการเรียนและการงาน | การแจกแจงเป็นจำนวน(%)จากกลุ่มคน |
ปกติ 140 ขึ้นไป | ฉลาดมากหรืออัจฉริยะ | สามารถเรียนได้ถึงปริญญาเอก เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นสูง เป็นผู้นำในอาชีพต่างๆ | 1% |
120 - 139 | ฉลาด | สามารถสำเร็จได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัย ทำงานอาชีพชั้นสูง | 11% |
110 - 119 | ค่อนข้างฉลาด | เรียนจบมัธยมและมีโอกาสจบมหาวิทยาลัย ได้ทำงานกึ่งวิชาชีพ | 18% |
90 – 109 | ปานกลาง | มีความสามารถระดับปานกลาง เรียนจบมัธยม ทำงานอาชีพใช้ความชำนาญธรรมดา | 46% |
80 – 89 | ค่อนข้างทึบ | เรียนจบประถมศึกษาได้ทำงานพวกค้าขาย เป็นกรรมกร | 15% |
70 – 79 | เชาว์ปัญญาทึบ | มีโอกาส 50% ที่จะจบประถมศึกษา ทำงานเป็นกรรมกรแรงงานหรือเป็นลูกมือผู้ช่วยได้ | 6% |
60 - 69 | ปัญญาอ่อน | ต้องได้รับการสอนเป็นพิเศษจึงจะอ่านออกเขียนได้ ทำงานประเภทไม่ใช้ความคิดหรืองานฝีมือง่ายๆได้ | ต่ำกว่า 70ลงไปมีประมาณ 3% |
20 – 49 | ปัญญาอ่อนขนาดกลาง | มีความสามารถเทียบเท่ากับเด็ก 6-7 ปีพอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง | |
ต่ำกว่า 20 | ปัญญาอ่อนขนาดหนัก | ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆได้ ไม่สามารถเรียนในโรงเรียนธรรมดาได้ ไม่สามารถจะเรียนหรือดูแลตนเองได้ |
ประโยชน์ของเชาว์ปัญญา
1. ในด้านความรู้ สามารถปรับตัวและแก้ไขเหตุการณ์ที่อยู่ในสังคมได้
2. ในด้านการแนะแนวการศึกษาอาชีพ ครูจะสังเกตเชาว์ปัญญา ความถนัด ความสนใจของเด็กเพื่อแนะแนวการศึกษาได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น